
ตรวจวัดสายตาและสุขภาพตาแบบครบวงจร ด้วยโปรแกรมตรวจสุขภาพตาที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้แว่นตาที่ใส่สบายที่สุด
การตรวจวัดสายตาและสุขภาพตาเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้แว่นที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะสายตาที่ผิดปกติอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นค่าสายตาผิดปกติ โรคทางดวงตา หรือทั้งสองอย่างร่วมกัน ดังนั้นควรมีการตรวจสุขภาพตาและค่าสายตาเป็นประจำสม่ำเสมอทุกปี
Better Vision Prestige ขอมอบ โปรแกรมตรวจสุขภาพตา 16 ขั้นตอน (มูลค่า 3,500 บาท) ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การตรวจตาที่เหนือกว่า ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดจากญี่ปุ่น และทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาสายตาหรือไม่ก็ตาม การตรวจสุขภาพตาเป็นประจำจะช่วยให้คุณตรวจพบโรคตาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และรักษาได้อย่างทันท่วงที
โปรแกรมตรวจสุขภาพตา ของเราครอบคลุมทุกการตรวจวัด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดค่าสายตา ตรวจจอประสาทตา, ความดันตา, จุดรับภาพ หรือตรวจหาโรคตาต่างๆ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้แว่นตาที่เหมาะสมและสบายตาที่สุด
ดูแลดวงตาของคุณวันนี้ เพื่อการมองเห็นที่ดีกว่า
-
1. ตรวจวัดระดับการมองเห็น (Visual Acuity test)
เป็นการทดสอบเบื้องต้นเพื่อประเมินความสามารถในการมองเห็นรายละเอียดของวัตถุในระยะไกลและระยะใกล้ ว่าผู้เข้ารับการตรวจมีระดับการมองเห็นที่ชัดเจนเพียงใด โดยวิธีการทดสอบหลักที่ใช้ คือ การให้ผู้เข้ารับการตรวจอ่านแผนภูมิ Snellen chart ซึ่งมีตัวอักษรหรือตัวเลขเรียงจากใหญ่ไปเล็ก
-
2. ตรวจวัดสายตาเบื้องต้นและความโค้งกระจกอัตโนมัติ
วัดสายตาโดยใช้เครื่องวัดสายตาคอมพิวเตอร์เพื่อวิเคราะห์ค่าสายตาสั้น ยาว เอียง และความผิดปกติเบื้องต้นของสายตา พร้อมวัดความโค้งกระจกตา 360 องศา แสดงผลเป็นองศาของสายตาเอียงเพื่อประกอบการวิเคราะห์ค่าสายตาโดยละเอียดในขั้นตอนต่อไป
-
3. ตรวจวิเคราะห์ภาพการมองเห็นอย่างละเอียด
เป็นขั้นตอนการตรวจวัดค่าสายตาขั้นสูงโดยใช้เทคโนโลยี Wavefront Aberrometer ซึ่งจะคำนวณความผิดปกติของการมองเห็นอย่างละเอียดมากขึ้นเมื่อเทียบกับคอมพิวเตอร์ วัดสายตาแบบเก่าโดยคำนวณจากสภาพพื้นผิวกระจก ขนาดรูม่านตาทั้งในสภาวะแสงน้อย และสภาวะแสงปกติ ทำให้ได้ค่าสายตาที่แม่นยำมากขึ้นโดยเฉพาะสายตาเอียงและทำให้ขั้นตอนการวัดสายตามีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
4. ตรวจความใสของตัวกลางทางผ่านแสงของดวงตา
เป็นการตรวจความใสของเลนส์แก้วตา เพื่อคัดกรองภาวะต้อกระจก ซึ่งต้อกระจกสามารถส่งผลให้คุณภาพการมองเห็นแย่ลงได้ และถ้าเลนส์แก้วตาขุ่นมาก จะแนะนำให้ผ่าตัดเอาเลนส์ตาที่ขุ่นออกเพื่อแก้ไข้ปัญหาก่อนการทำแว่น
-
5. ตรวจประเมินจุดรับภาพชัดเบื้องต้น
ตรวจคัดกรองสำหรับผู้ที่มีโรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อม อาจไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้สูญเสียการมองเห็น โดยจะทำให้สูญเสียการมองเห็นเฉพาะภาพตรงส่วนกลาง ภาพด้านข้างของการมองเห็นยังดีอยู่ จึงควรตรวจเพื่อป้องกัน/รักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
-
6. ตรวจวัดหาค่าสายตาอย่างละเอียด
การวัดสายค่าสายตาได้อย่างละเอียดแม่นยำ เป็นปัจจัยหนึ่งในการทำแว่นสายตาที่คมชัดและใส่สบาย โดยเครื่องมือวัดค่าสายตาของ Better Vision Prestige เป็นเครื่องวัดสายตาแบรนด์ชั้นนำระดับโลก นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น (Nidek Phoropter RT-6100) ที่สามารถวิเคราะห์การมองเห็นได้อย่างละเอียด เพื่อค่าสายตาที่แม่นยำที่สุด และสามารถวัดค่าสายตาสั้นและยาวได้สูงสุดถึง 26.00 Diopter
-
7. ตรวจการรวมภาพ และการทำงานร่วมกันของตาสองข้าง
เป็นการวัดความสามารถการรวมภาพของทั้งสองตา/รับภาพสามมิติ การกะระยะ การรับรู้ขนาดของภาพจากตาทั้งสองข้าง เพื่อนำไปวิเคราะห์ในการแก้ปัญหาด้วยวิธีต่างๆ สั่งค่าสายตาและเลนส์ที่เหมาะสม
-
8. ตรวจการทำงานของระบบกล้ามเนื้อตาและภาวะตาเหล่
ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตาร่วมกันของตาทั้งสองข้าง และการแก้ไขภาพซ้อนที่เกิดจากภาวะตาเหล่ด้วยเลนส์ Prism
-
9. ตรวจวัดความดันตา มุมตา และความหนากระจกตา
เป็นการวัดความดันของเหลวภายในดวงตา ด้วยเครื่อง DNEye Scanner เทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดจากประเทศเยอรมัน เพื่อใช้เป็นการประเมินความเสี่ยงของ โรคต้อหินหรือโรคที่มีอาการอักเสบภายในดวงตา ซึ่งส่งผลให้ความดันตาเปลี่ยนแปลงไปจากค่าความดันปกติ
-
10. ตรวจความยาวกระบอกตา (Ocular Axial Length)*
เครื่องวัดความยาวกระบอกตา เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับเด็กที่มีปัญหาค่าสายตาสั้น เครื่องมือนี้ใช้ในการวิเคราะห์ความยาวกระบอกตา (และนำข้อมูลไปประเมินความเสี่ยงและติดตามผลของการควบคุมสายตาสั้นด้วยวิธีต่างๆ เช่นเลนส์ชนิดพิเศษที่ช่วยชะลอค่าสายตาสั้น Myopia control) เป็นการชะลอไม่ให้ค่าสายตาสั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยการควบคุมสายตาสั้นมีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ทำให้ไม่ต้องใส่แว่นหนาเมื่อโตขึ้นหรือลดความเสี่ยงการเป็นโรคตาต่างๆ ในอนาคต เช่น ต้อหิน จอตาเสื่อม จอตาฉีกขาดหลุดลอก เป็นต้น
-
11. ตรวจลานสายตา (Visual Field Testing)*
ตรวจเพื่อคัดกรองหรือยืนยันโรคที่ส่งผลต่อลานสายตา
-
12. ตรวจสุขภาพตาเชิงลึก ส่วนหน้าและ ส่วนหลังของลูกตา
การตรวจขั้วประสาทตา จอประสาทตา และจุดรับภาพ ด้วยการสร้างภาพตัดขวางจากเครื่องเลเซอร์ โดยจะมีการถ่ายภาพจอประสาทตาในลักษณะภาพตัดขวาง เพื่อให้ได้ภาพในรูปแบบทั้ง 2 และ 3 มิติ และสามารถแยกชั้นของจอประสาทตาได้เป็นชั้นย่อยๆ อีก 10 ชั้น เพื่อตรวจดูหนาของจอประสาทตาว่ามีความผิดปกติที่ถูกทำลายจากภาวะต่างๆ มีการบวมตัวขึ้นของจอประสาทตา หรือไม่
-
13. ตรวจสุขภาพตาส่วนหน้า โรคต้อเนื้อต้อลมต้อกระจก การตอบสนองของรูม่านตา*
เป็นการตรวจด้วย Slit Lamp คือกล้องจุลทรรศน์ชนิดพิเศษที่มีกำลังขยายสูง และลำแสงรูปแบบต่างๆ เพื่อดูรอยโรคและประเมินสุขภาพของดวงตาส่วนหน้า เช่น ผิวหนังบริเวณรอบดวงตา เปลือกตาขนตา สภาพผิวของตา ตาขาว กระจกตา ม่านตา และเลนส์แก้วตา เป็นต้น
-
14. ตรวจพฤติกรรมการกรอกตามองเฉพาะบุคคล
การวัดพฤติกรรมในการกรอกตาด้วยเครื่อง Zenos VR (Virtual Reality) ทั้งการกรอกตามองระยะไกล ระยะกลาง และระยะใกล้ สามารถนำข้อมูลมาผลิตเลนส์ที่มีโครงสร้างเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละบุคคล เพื่อเพิ่มความสบายในการสวมแว่นโพรเกรสซีฟ แว่นที่มีค่าสายตาเอียงมากๆ หรือมีค่าสายตาซับซ้อน
-
15. วัดค่าพารามิเตอร์ และจุดศูนย์กลางตาเฉพาะบุคคล
เนื่องจากแต่ละบุคคลมีโครงหน้าที่แตกต่างกัน ทำให้แว่นขณะที่สวมใส่มีมุมองศาแตกต่างกัน ส่งผลถึงคุณภาพของการมองเห็นที่ต่างกัน ซึ่งการวัดค่าพารามิเตอร์ที่แม่นยำสำหรับแต่ละบุคคลโดยเครื่อง Invision Augmented Reality (AR) ที่ Better Vision Prestige จะส่งผลให้แว่นตาสามารถสวมใส่ได้อย่างสบายตาและเหมาะสมกับโครงหน้าของผู้สวมใส่มากที่สุด
-
16. ปรึกษาปัญหาสุขภาพตา และปัญหาการมองเห็น
เพราะสุขภาพดวงตาคือสิ่งสำคัญ Better Vision Prestige มีจักษุแพทย์คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาโรคตา และแนะนำการดูแลสุขภาพดวงตาอย่างใกล้ชิด (ปรึกษาปัญหาทางดวงตากับจักษุแพทย์ ทุกวันศุกร์ 17.00-20.00 วันเสาร์ และอาทิตย์ เวลา 13.00-17.00)